ประเพณีท้องถิ่น


" ประเพณีท้องถิ่น "

หลวงปู่ต้อน... ศูนย์รวมใจชาวบ้านเมืองเก่า

        ข้อเขียนนี้ เกิดจากการค้นคว้าและรวบรวมประวัติปูชนียสถานของบ้านเมืองเก่า ตำบลบ้านยาง  อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ...เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป     หลวงปู่ต้อน เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่งในสมัยโยคะ มีประชาชนศรัทธานับถือมาก  ตามประวัติที่เล่าลือกันสืบมา ท่านเป็นคนบ้านเมืองเก่า มีต้นตระกูลเกิดที่บ้านเมืองเก่า  ไม่มีผู้ใดทราบชื่อบิดามารดาของท่าน  ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นพี่ชายของนายจันทา  นายจันทาได้แต่งงานกับนางปา ซึ่งเป็นแม่ของคุณย่าเหลือง หินเมืองเก่า หลวงปู่ต้อนเกิดในสมัยรัชกาลที่  3  ขาของท่านพิการข้างหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก  เด็ก ๆ เดินขาเขยกหรือขาต้อน คนจึงเรียกชื่อท่านว่า ต้อน  ท่านบวชตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร และอุปสมบทต่อเป็นพระภิกษุโดยไม่เคยสึกเลย เป็นพระที่เป็นผู้นำสร้างวัดแจ้ง บ้าน เมืองเก่า ตำบลบ้านยาง  อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ  ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนแตกฉาน มีความรู้ด้านไสยศาสตร์ มีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถปลุกเสกเครื่องรางของขลัง และอยู่ยงคงกะพันเป็นที่เลื่องชื่อลือชา  ของคนทั่วไปในเขตภูเขียวอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ และหนองบัวแดงในสมัยโบราณ ในสมัย รัชกาลที่  4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูพิพัฒน์ศีลคุณ พระครูองค์แรกของอำเภอภูเขียว ประชาชนให้ความเคารพนับถือ  ศรัทธามาก ผู้ใดจะไปศึกสงคราม หรือออกจากบ้านเสี่ยงโชคหางานทำที่ห่างไกล หรือประกอบอาชีพทำมาค้าขายใด ๆ ก็ตามจะมาขอให้ท่านปลุกเสกเครื่องรางของขลังผ้ายันต์เพื่อป้องกันภัยอันตรายให้เกิด ศิริมงคลเป็นประจำ   ด้านอภินิหาร มีคนเล่าต่อกันมาว่า ท่านสามารถปลุกเสกหญ้า หรือใบไม้ หรือขึ้นฝึกต่อสู้กับข้าศึกศัตรูหรือขับไล่ภูตผีปีศาจ ได้ครั้งหนึ่ง มีคนขี่ม้าเข้าไปในวัด ม้าเกิดชักล้มทั้งยืน ทำอย่างไรก็ไม่หายเจ้าของม้าได้ไปกราบขอขมาท่าน ม้าจึงหายชัก หลายครั้งที่ผู้คนใส่รองเท้าขึ้นไปบนกุฏิ  แล้วมีอันเป็นไปปวดหัว เจ็บท้อง ชักดินชักงอ  พอไปกราบขอขมาท่านอาการดังกล่าวก็หายไป

          หลวงปู่ต้อนเป็นคนที่พูดจาน่าเกรงขาม  ค่อนข้างดุคนกลัวมาก พูดอย่างไรต้องเป็นอย่างนั้น มีอายุประมาณ  80 ปีเศษ ก่อนมรณภาพท่านได้บอกไว้ว่า  หากตายไปให้นำศพไปเผาและฝังหลักเสนี้เป็นที่เคารพสักการะของผู้คน พากันกราบไหว้มาโดยตลอด และเคยแสดงอภินิหารให้คนเห็นหลายครั้ง  เช่น ครั้งหนึ่งมีหนุ่มคนจีนคนหนึ่งขับรถยนต์ สมัยเก่ามาถึงหลักเสหลวงปู่ต้อน  ได้พูดขึ้นว่า หลักอะไรทำไมมีคนไปกราบไหว้บูชา เพียงพูดเท่านั้น  รถยนต์ก็ไม่สามารถขับไปได้ทั้งที่ดินแห้ง เจ้าของรถเร่งเครื่องรถยนต์จนฝุ่นตลบ  แต่ไม่สามารถแล่นไปได้ คนจึงแนะนำให้ไปกราบขอขมาหลักเส  ชายคนนั้นจึงขับรถไปได้
          ครั้งหนึ่งมีคนนำช้างมาแสดงให้คนดูที่ลานหญ้าข้างวัด ก่อนการแสดงได้นำช้างไปกินใบไผ่ใกล้  ๆ บริเวณหลักเสหลวงปู่ต้อน  คนจึงบอกไปไม่ให้นำช้างไปไว้บริเวณนั้น เจ้าของช้างไม่เชื่อ ปรากฏว่าช้างตื่นตกใจร้องแปร๋นวิ่งหนีไป  เจ้าของตามไปจับได้พยายามนำช้างเข้ามาเพื่อแสดงแต่ช้างก็ไม่ยอม คนจึงแนะนำให้ไปกราบขอขมาหลวงปู่ต้อน จึงสามารถนำช้างกลับมาแสดงให้คนดูได้
          ครั้งหนึ่ง อาจารย์เปล่ง ศิลปยามานันท์ ครูสอนโรงเรียนวัดแจ้งบ้านเมืองเก่า เห็นว่าที่ดินนั้นเป็นที่จองไว้สำหรับสร้างโรงเรียนและทำสนามกีฬา จึงได้ขุดเอาหลักเสออกและนำไปฝังไว้ที่วัดแจ้งได้เพียง  2  3 วันเท่านั้น ก็เกิดป่วยเสียสติ หนีโรงเรียนไปสอนตามป่าอยู่ประมาณเกือบครึ่งเดือน คนจึงได้นำพามาขอขมาและนำหลักเสกลับไปฝังไว้ที่เดิม จึงหายป่วยและกลับมาสอนโรงเรียนได้ตามปกติ
          ต่อมาเมื่อวันที่  3 กันยายน  2515  อาจารย์เสงี่ยม  หว้าพิทักษ์ ครูใหญ่และนายเข็มชัย  หินเมืองเก่า ทำหน้าที่ผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนบ้านเมืองเก่า สมัยนั้น ได้นำคณะครู ประชาชนบ้านเมืองเก่า ทำพิธีสักการะบวงสรวงขอย้ายหลักเส  ออกจากบริเวณ ที่จะสร้างสนามฟุ ตบอล ไปประดิษฐ์ไว้ที่ข้างสนามและก่อธาตุเจดีย์ครอบหลักเสเป็นอนุสาวรีย์ สร้างรูปปั้นหลวงปู่ต้อนประดิษฐานไว้ในเจดีย์ ณ บริเวณที่ตั้งปัจจุบัน ทำพิธีบวงสรวงสักการะ  และจัดงานฉลอง  3  วัน  3 คืน  ให้คนได้กราบไหว้บูชา ในวันเพ็ญเดือน  3 ต่อมา พ.ศ. 2527  ชาวบ้านได้พร้อมใจกันสร้างเหรียญหลวงปู่เป็นที่ระลึกให้คนรู้เลื่อมใส ศรัทธานำไปบูชา  ไว้วัดเพื่อเป็นศิริมงคลสวัสดี มีชัย
          ในวันเพ็ญเดือน  3 ทุกปี  ชาวบ้านเมืองเก่า จะพร้อมกันจัดงานกุศลประเพณีนมัสการหลวงปู่ต้อน เป็นงานใหญ่ประเพณีประจำปี ของหมู่บ้าน  มีมหรสพสมโภช  ผู้คนจะหลั่งไหลมากราบคารวะอย่างเนืองแน่นตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

โดยงานหลวงปู่ต้อนจะจัดขึ้น ปลายเดือนมกราคมของทุกปี จัดงานทั้งหมด 5 วัน ซึ่งในแต่ละคืน จะมีวงดนตรี หรือวงหมอลำมาสร้างความสนุกสนานให้ผู้คนที่ไปเที่ยวงาน แลุะในแต่ละคืนนั้นวงดนตรีจะไม่ซ้ำกัน จึงสร้างความสนุกสนานรื่นเริงให้แก่วัยรุ่น และผู้คนเป็นอย่างมา และในงานจะมีขนม หรือของซื้อของขาย เครื่องเล่น หรือเกมส์ต่างๆเยอะมาก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระไกรสิงหนาท

น้ำตกตาดโตน